วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ความซื่อสัตย์ คือการปลูกความดี

นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งเริ่มแก่ตัวลง และต้องการหาคนมาสืบทอดธุรกิจ แทนที่เขาจะเลือกผู้อำนวยการ หรือ ลูกของเขา แต่เขาตัดสินใจที่จะทำบางอย่างที่แตกต่างออกไป

เขาเรียกนักบริหารหนุ่มๆในบริษัทของเขามารวมกัน และพูดว่า “ถึงเวลาที่ฉันจะวางมือและเลือกคนที่จะเป็น CEO คนใหม่แล้วล่ะ” “และฉันก็จะตัดสินใจเลือกคนหนึ่งในพวกคุณนี่แหละ” พวกหนุ่มต่างรู้สึกช็อค เขาพูดต่ออีกว่า “วันนี้ผมจะให้เมล็ดพืชแก่พวกคุณคนละเมล็ด เป็นเมล็ดพิเศษ คุณต้องดูแลและรดน้ำ นับจากวันนี้ไปอีก 1 ปี และผมจะตัดสินจากต้นไม้ที่เจริญเติบโตขึ้น ที่พวกคุณนำมาให้ผม คนที่ผมเลือก จะได้เป็น CEO คนต่อไป”

นักบริหารหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อ จิม เขาเป็นหนึ่งในหนุ่มๆที่ได้รับการคัดเลือกในวันนั้น เขาได้รับเมล็ด มา 1 เมล็ด และนำกลับบ้านด้วยความตื่นเต้น เขาบอกภรรยา และช่วยกันเตรียมกระถาง ดิน และปุ๋ย เพื่อเตรียมปลูกต้นไม้ พวกเขาดูแลรดน้ำอย่างดี

ผ่านไปสามสัปดาห์ พวกนักธุรกิจหนุ่มคนอื่นได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเมล็ดพืชที่เขาได้รับและเริ่มเจริญเติบโต แต่จิมก็เฝ้าดูทุกวัน แต่ก็ยังไม่มีต้นอะไรงอกออกมา .. 3 สัปดาห์ผ่านไป .. 4 สัปดาห์ ผ่านไป.. 5 สัปดาห์ ผ่านไป ก็ยังไม่เห็นอะไรในกระถาง

ตอนนี้หนุ่มๆได้พูดถึงต้นไม้กันอีกแล้ว แต่จิมไม่มีอะไรจะพูด เพราะเขาไม่เห็นต้นไม้ของเขา เขาเริ่มรู้สึกว่าล้มเหลว ผ่านไป 6 เดือน ก็ยังไม่มีอะไรงอกขึ้นมา เขาเริ่มรู้สึกว่าเขาได้ทำลายเมล็ดนั้นไปซะแล้ว

ทุกๆคนมีต้นไม้ที่เติบโตขึ้น ยกเว้นจิมที่ไม่มี แต่เขาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงาน เขาก็ยังคงเฝ้าดูแลรดน้ำต่อไป

ผ่านไปครบ 1 ปี ทุกคนก็ได้นำต้นไม้ไปให้ CEOได้ตัดสิน… จิมพูดกับภรรยาว่า “ผมจะไม่เอากระถางเปล่าๆใบนี้ไปแน่” ภรรยาบอกเขาว่าให้พูดความจริงออกไปว่ามันเป็นยังไง จิมรู้สึกว่าท้องปั่นป่วนไปหมด เป็นวินาทีที่เขารู้สึกอับอายที่สุดในชีวิต แต่เขาก็คิดว่าภรรยาของเขาพูดถูก ดังนั้นเขาจึงถือกระถางเปล่าๆ เข้าไปในห้องที่ได้นัดหมายกันไว้

เมื่อจิมมาถึง เขาแปลกใจมากว่า ทำไมต้นไม้ของคนอื่นถึงสวยและแข็งแรงกันหมดทุกคน เมื่อพวกเขาเห็นกระถางของจิม ส่วนใหญ่ก็จะหัวเราะเยาะ มี 2-3 คนเท่านั้นที่แสดงความเห็นใจ

เมื่อท่านประธานเข้ามาถึง เขาได้ทักทายทุกๆคน จิมได้แต่แอบหลบอยู่ข้างหลังห้อง “โอ ทำไมต้นไม้ของพวกคุณถึงได้สวยกันเหลือเกิน เอาละ หนึ่งในพวกคุนจะได้เลื่อนเป็น CEO กันวันนี้แหละ”

พอท่านประธานเห็นกระถางของจิม ที่อยู่ข้างหลังห้อง เขาก็บอกให้ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินเรียกจิมขึ้นมาข้างหน้า จิมรู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดว่าท่านประธานคงคิดว่าเขาล้มเหลว และเขาอาจจะถูกไล่ออก

เมื่อจิมเดินมาหน้าห้อง ท่านประธานก็ถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับต้นไม้ของคุณ” จิมก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง แล้วท่านประธานก็บอกให้ทุกคนนั่งลง ยกเว้นจิม

ท่านมองมาที่จิมและก็ประกาศว่า “CEO คนต่อไปก็คือ……. จิม”

จิมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เพราะต้นไม้ของเขาก็ไม่มี เขาจะได้เป็น CEO ได้อย่างไร และแล้วท่านประธานก็พูดว่า “เมื่อปีที่แล้ว ผมได้ให้เมล็ดพืชกับพวกคุณทุกคน ให้พวกคุณดูแลรดน้ำมันทุกๆวัน แต่มันเป็นเมล็ดที่ต้มแล้ว ดังนั้น มันจะงอกเป็นต้นไม้ได้อย่างไร พวกคุณทุกคนยกเว้นจิม นำต้นไม้ที่สวยงามมาให้ผม นี่ก็แสดงว่าเมื่อพวกคุณพบว่าเมล็ดมันไม่งอก พวกคุณก็เอาเมล็ดอื่นปลูกแทนน่ะสิ จิมเป็นคนเดียวที่กล้ายอมรับความจริง และนำกระถางเปล่าพร้อมกับเมล็ดที่ผมให้มาให้ผม” “ ดังนั้น ผมจึงแต่งตั้ง จิม ให้เป็น CEO คนต่อไป”

คติธรรม ที่ได้ …

เมื่อคุณปลูกความซื่อสัตย์ คุณก็จะได้รับความไว้วางใจ

เมื่อคุณปลูกความดี คุณก็จะได้รับมิตรภาพ

เมื่อคุณปลูกความอ่อนน้อมถ่อมตน คุณก็จะได้รับความยิ่งใหญ่

เมื่อคุณปลูกความพากเพียร คุณก็จะได้รับความสำเร็จ

เมื่อคุณปลูกความพิจารณา คุณก็จะได้รับความละเอียดลออ

เมื่อคุณปลูกความทำงานหนัก คุณก็จะได้รับความสำเร็จ

เมื่อคุณปลูกการให้อภัย คุณก็จะได้รับการคืนดี

ดังนั้น … ตรองดูสักนิดว่าคุณจะปลูกอะไร คุณก็สามารถกำหนดสิ่งที่คุณจะได้รับได้

ขอบคุณที่มาเพจ :Toptenthailand.com

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

“เที่ยวต่างประเทศให้สนุก ประหยัด ลดค่าใช้จ่ายกับ Smart Phone เครื่องเดียว”

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก บทความเรื่อง “เที่ยวต่างประเทศให้สนุก ประหยัด ลดค่าใช้จ่ายกับ Smart Phone เครื่องเดียว” โดย คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ จากเว็บไซต์ pawoot.com ที่ให้เรานำมาทำรายการในตอน “เดินทางไปต่างประเทศสุดสะดวกและประหยัดด้วย Smart Phone เครื่องเดียว!” ค่ะ…..
สำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ วันนี้ผมมีคำแนะนำในการใช้โทรศัพท์ประเภทสมารท์โฟนให้คุ้มค่ากับการเดินทางไปต่างประเทศเนื่องจากเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา (Jul 2 – 10, 2011) ที่ผ่านมาผมไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น และบอกได้เลยว่าผมสามารถใช้ความสามารถของสมารท์โฟนได้อย่างเต็มที่ มาดูกันว่าโทรศัพท์สมารท์โฟนมันสามารถช่วยอะไรคุณได้บ้าง เวลาคุณไปอยู่ต่างประเทศ
สมาร์ทโฟนทำอะไรได้มากกว่าที่คิด  เดินทางไปต่างประเทศสุดสะดวก ประหยัด ด้วยสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว (ตอนที่1)

สมาร์ทโฟนทำอะไรได้มากกว่าที่คิด  เดินทางไปต่างประเทศสุดสะดวก ประหยัด ด้วยสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว (ตอนที่ 2)

อุปกรณ์และสิ่งที่ต้องมี  (Devices)

      ในการเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าท่านจะไปด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม  แต่ก่อนจะเดินทางไปนั้น  นักเดินทางทุกท่านควรจะค้นหาข้อมูลในประเทศนั้น ๆ ให้ละเอียดถี่ถ้วนอย่างดีเสียก่อน โดยเฉพาะการใช้อินเตอร์เน็ตผ่านเครื่องสมาร์ทโฟน  ไม่งั้นท่านกลับมาจากต่างประเทศเมื่อไร  จะจ๊ะเอ๋กับบิลค่าโทรศัพท์ที่แพงสุด ๆ ในชีวิตของท่านได้เลย
        วันนี้จึงขออนุญาตินำเรื่องเล่าจากเว็บ ๆ หนึ่งที่เขาได้แนะนำการใช้เครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ในการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ  ต้องประกอบอะไรด้วยล่ะ  งั้นไปติดตามชมกันเลยครับ
      สิ่งที่จะต้องเตรียมให้พร้อมก่อนออกเดินทางก็มี  ดังนี้

1.โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน  โดยผมจะใช้มือถือAndroid และ Tablet  ในการเดินทางไปครั้งนี้
2.ซิมโทรศัพท์ ผมใช้เบอร์ของ AIS และได้เปิดบริการโรมมิ่งข้อมูล (Internet Data Roaming)  สามารถรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตไม่จำกัด (Unlimited Data)  โดยผมเปิดแพ็กเก็จ 5 วัน เหมารวม 2,000 บาท (เฉลี่ยวันละ 400 บาท) เป็นแพ็กเก็จที่เปิดให้บริการ ณ.ช่วงเวลาที่ผมไป  (สำหรับแพ็กเก็จนั้นขึ้นอยู่การใช้งานและโปรโมชั่นของแต่ล่ะค่ายที่ท่านใช้นะครับ ก่อนเดินทางก็ให้ลองติดต่อสอบถามดูก่อน เพื่อป้องกันการเปิดใช้โดยอัตโนมัติและป้องกันค่าใช้จ่ายด้วย)
3.ที่ชารต์แบ็ตแบบพกพา [จำเป็นมากๆ เพราะแบ็ตก้อนเดียวเอาไม่อยู่ครับ ]


ผมใช้สมารท์โฟนทำอะไรบ้าง ในการเดินทางที่ต่างประเทศ

A. การสื่อสาร (Communication)
  • คุยโทรศัพท์
    • คุยแบบโทรทางไกล (แทบไม่ได้ใช้เลย) ใช้รับสายเป็นหลัก แต่รับทีก็แพงนะ
    • โทรทางไกลผ่าน Skype พร้อมเห็นหน้า ซึ่งผมได้ลง Version ใหม่ของ Skype ที่ผมสามารถมองเห็นหน้ากันผ่านมือถือได้ทันที ผ่านโครงค่าย 3G ของที่ญี่ปุ่น ฟรีครับ.! ไม่เสียเพิ่มสักบาท (แต่คนที่จะคุยด้วยต้องลงและเปิดโปรแกรม Skype เอาไว้นะครับ
    • หากจะโทรเข้าหาคนที่เมืองไทยที่ไม่ได้ใช้ Skpe ผมซื้อ Skype Credit เอาไว้ $10 ทำให้ผมสามารถโทรผ่านโปรแกรม Skype ไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือ, บ้านแบบปกติได้เลยผ่านสัญญานโทรศัพท์ 3G (ค่าโทรถูกมากๆ)
    • สื่อสารกับทีมงานที่ออฟฟิสทีเมืองไทยเป็นตัวหนังสือผ่าน Google Talk พิมพ์สั่งงานและคุยสื่อสารกันได้ตลอดเวลา เหมือนไม่ได้ห่างจากโต๊ะทำงานที่เมืองไทยเลย น้องๆ สามารถปรึกษาและถามผมได้ตลอดเวลา และผมใช้่ Skype ในการคุยแบบตัวหนังสือได้เช่นกัน
B. การเก็บบันทึก (Records & Tracking)
  • ใช้ถ่ายภาพ บันทึกตอนเดินทาง 
  • อัพโหลดภาพที่ถ่ายเข้าสู่โซเชียลเน็ตเวิกร์ทันที ผมใช้โปรแกรม Pixel Pipe ในการกำหนดว่าเราจะส่งภาพขึ้นไปอย่างอัตโนมัติได้ทันที ไปยังโซเชียบเน็ตเวิกร์ที่เราใช้บ่อยๆ ดังน้นการกดถ่ายภาพทุกครั้ง ภาพที่ผมถ่ายจะถูกอัพโหลดไปยัง  Flickr.com, Facebook.com, Piccasa (Google Photo) อย่างอัตโนมัติทันที (แหมก็ Unlimited Data นิครับ) รวมถึงหากถ่ายวีดีโอ ผมก็กำหนดให้วีดีโอถูกอัพโหลดไปที่ Youtube.com อย่างอัตโนมัติทันทีเช่นกัน
  • เก็บบรรกาศการเที่ยว เป็นรูปแบบวีดีโอ และส่งแบ่งปันเพื่อนๆง่ายๆ ผ่านโปรแกรม Qik.com ได้ทันที สะดวกมากๆ [ดูตัวอย่างวีดีโอที่ผ่านถ่ายผ่าน Qik ที่ญีปุ่น]
  • เก็บข้อมูลสิ่งที่เราได้เจอในการเดินทาง จดโน็ต ไอเดียต่างๆ หรือจัดทำตารางแต่ละวันง่ายๆ ผ่านโปรแกรม Evernote.com ที่ลงไว้ในมือถือ (ฟรี)
C. การแบ่งปันและเชื่อมโยงกับโซเชี่ยลเน็ตเวิรก์ (Social & Sharing) 
  • ผมสื่อสารกับเพื่อนผ่านโซเชี่ยลเน็ตเวิรก์ โดยได้ลง
    • Facebook for Android เป็นการเชื่อมต่อกับ Facebook บนมือถือ Android ทำให้ไม่พลาดทุกครั้งที่เพื่อนๆ พูดถึงผม
    • พูดคุยกับเพื่อนผ่าน Twitter ด้วยโปรแกรม Twicca (บน Android) ที่เจ๋งคือมี Plugin แปลภาษา ทำให้เพื่อนๆ ผมที่เป็นญี่ปุ่นพิมพ์อะไรมา ผมสามารถแปลเป็นอังกฤษหรืไทยได้ทันที
    • Foursquare on Mobile ผมใช้เช็กอินที่ผมไป รวมถึงใช้ค้นหาร้านอาหารอร่อยๆ ในพื้นที่ๆ ผมไม่เคยไป เราจะเห็นคำแนะนำมากมายในพื้นที่ๆ เรากำลังหาของกินหรือสถานที่เที่ยว
    • พูดคุยกับเพื่อนๆ ผ่าน Google Plus เพิ่งเปิดตัวไปอาทิตย์ก่อน ผมเลยได้มีโอกาศลองการสื่อสารกับเพื่อนๆ กลุ่มแรกๆ ที่ได้ใช้ Google Plus  ซึ่งตอนนี้มีเป็นแอ็พบน Android แล้ว จุดเด่นที่ผมชอบคือ การผสานบริการต่างๆ ของ  Google เข้าไว้ด้วยกันและยังสามารถ อัพโหลดภาพจากกล้องมือถือ Android  ของเราได้อัตโมมัติทันที
D. เดินทางและสื่อสารกับคนท้องถิ่น (Communicate with Local People) 
  • ผมสื่อสารกับเพื่อนผ่านโซเชี่ยลเน็ตเวิรก์ โดยได้ลง
    • Facebook for Android เป็นการเชื่อมต่อกับ Facebook บนมือถือ Android ทำให้ไม่พลาดทุกครั้งที่เพื่อนๆ พูดถึงผม
    • พูดคุยกับเพื่อนผ่าน Twitter ด้วยโปรแกรม Twicca (บน Android) ที่เจ๋งคือมี Plugin แปลภาษา ทำให้เพื่อนๆ ผมที่เป็นญี่ปุ่นพิมพ์อะไรมา ผมสามารถแปลเป็นอังกฤษหรืไทยได้ทันที
    • Foursquare on Mobile ผมใช้เช็กอินที่ผมไป รวมถึงใช้ค้นหาร้านอาหารอร่อยๆ ในพื้นที่ๆ ผมไม่เคยไป เราจะเห็นคำแนะนำมากมายในพื้นที่ๆ เรากำลังหาของกินหรือสถานที่เที่ยว
    • พูดคุยกับเพื่อนๆ ผ่าน Google Plus เพิ่งเปิดตัวไปอาทิตย์ก่อน ผมเลยได้มีโอกาศลองการสื่อสารกับเพื่อนๆ กลุ่มแรกๆ ที่ได้ใช้ Google Plus  ซึ่งตอนนี้มีเป็นแอ็พบน Android แล้ว จุดเด่นที่ผมชอบคือ การผสานบริการต่างๆ ของ  Google เข้าไว้ด้วยกันและยังสามารถ อัพโหลดภาพจากกล้องมือถือ Android  ของเราได้อัตโมมัติทันที
D. เดินทางและสื่อสารกับคนท้องถิ่น (Communicate with Local People) 

  • ใช้นำทาง เดินทางดูแผนที่ ดูรถไฟ กำหนดการท่องเที่ยว โดย Application หลักที่ผมใช้คือ Google Map ใช้ดูว่าจะเดินทางอย่างไร โดยรถไฟ ไปสถานีไหน ลงที่สถานีไหน ใช้เวลาเท่าไร ดูได้หมด รวมถึงยังปักหมุดในตำแหน่งที่เราอยากไปได้ง่ายๆ อีกด้วย และหากใช้ร่วมกับ Google Latitude เราจะสามารถรู้ตำแหน่งของเพื่อนเราได้ หากเราไปกันหลายคน ซึ่งจะแก้ปัญหาการหลงทาง และติดตามกันได้ง่ายมาก
  • พูดคุยกับคนต่างภาษาง่ายๆ ด้วยโปรแกรมแปลภาษาผ่าน Google Translate ผมไปกินร้านอาหารญี่ปุ่นแต่คุยกับเค้าไม่รู้เรื่องสั่งแทบไม่ได้เลย เพราะเมนูเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด เลยต้องใช้โปรแกรม Google Translate บนมือถือ แปลในส่ิงที่เราอยากจะพูด โปรแกรมจะแสดงออกมาเป็นภาษาที่เราต้องการ และยังออกเสียงได้อีกด้วย สะดวกจริงๆ (ไม่ได้โปรแกรมนี้ แย่ๆ แน่ๆ) ซึ่งโปรแกรมนี้ ผมโหลดตอนที่เจอปัญหาทันที
  • ใช้ค้นหาข้อมูลระหว่างการเดินทาง อันนี้สำคัญมากๆ เช่น ค้นหาโรงแรมที่ผมจะไปพัก หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ต้องบอกว่าจำเป็นมากๆ โดยเปิดผ่าน Browser บนมือถือของเราได้เลยครับ อยากรู้อะไรก็ค้นหา
  • ระหว่างเดินทางผมก็เสียบหูฟังเปิดฟังเพลง ไปเรื่อยๆ ขณะนั่งรถไปที่ต่างๆ ช่างสะบายอารมรณ์จริงๆ
ทั้งหมดที่ผมบอกมา “อยู่ในโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว” และลง Application หลากหลายตัวขึ้นมารองรับการใช้งานของเรา  ส่วนผมพกทั้งสองเครื่องเลยคือมือถือและ Tablet แบ่งกันใช้ เพราะหากตัวใดแบ็ตหมด ก็เอาอีกตัวนึงมาแทน และตัวที่แบ็ตหมดผมก็ชาร์ตผ่าน “ที่ชารต์แบ็ตแบบพกพา” เอาไว้รอการใช้งานต่อไป สิ่งที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ สามารถทำผ่านโทรศัพท์สมารท์โฟนที่เป็น iphone หรือ BlackBerry ได้เช่นกัน เพราะแอ็พหรือบริการต่างๆที่ผมแนะนำมาทั้งหมดสามารถหาได้บนมือถือทั้งสองแพล็ตฟอร์มนี้  จะเห็นว่าเราสามารถใช้โทรศัพท์มือถือของเราให้เกิดประโยชน์มากขึ้น กว่าที่เราใช้งานปัจจุบันง่ายๆ ลองเตรียมตัวลงแอ็พต่างๆ เอาไว้ก่อนทริปการเดินทางของคุณในครั้งๆ ต่อไปนะครับ รับรองคุณจะประหยัดค่าโทรศัพท์และการสื่อสารของคุณจะมีประสิทธิภาพ รวมถึงการทำงานของคุณก็จะลื่นไหลปรื๊ดๆ เลยครับ


และขอบคุณที่มาจากรายการ it24hrs  ที่นำเสนอข่าวสารความรู้ด้านไอที
















วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เมื่อสังคมไทยมีคนเก่ง แต่ขาดคนดี

เมื่อสังคมไทยมีคนเก่ง แต่ขาดคนดี 
โดย สุทธิชัย หยุ่น

"ผมอ่านแล้ว ก็ต้องส่งสารต่อให้ท่านผู้อ่านได้ช่วยกัน   คิดช่วยกันอ่าน เพราะว่าลำพังเราเอง เพียงแค่แสดงความกังวล   ห่วงใยในบ้านเมืองเฉยๆ ไม่น่าจะพอ แต่จะต้องรวมพลังในรูปแบบต่างๆ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา
บ้านเมืองกันอย่างแข็งขันอีกด้วย"
     คุณอานันท์ บอกว่า “ปีนี้ผมมีอายุครบ 80 ปี และเป็นปีแรกที่ต้องขอสารภาพด้วยความจริงใจ บริสุทธิ์ใจ และไม่มีอคติ ว่า ปีนี้ผมมีความห่วงใยเรื่องคอร์รัปชันในเมืองไทยมากที่สุด ตั้งแต่เกิดมา”
      คุณอานันท์ บอกว่า ในอดีตคอร์รัปชันเป็นเรื่องการให้ค่าน้ำชา ค่าสินบน การให้ของชำร่วย ช่วยเหลือในด้านต่างๆ ระหว่างบุคคลกับบุคคล หรือกลุ่มกับกลุ่มเท่านั้น แต่ปัจจุบัน "ความฉ้อฉล" และ "กลโกง" มีความลึกลับสลับซับซ้อนมากขึ้น  มากไม่ใช่แค่ค่าน้ำชาสินบน  แต่มีการวางยุทธศาสตร์ มีการวางแผนการอย่างแยบยล และที่สำคัญที่สุด คือ มีการบูรณาการกันอย่างพร้อมเพรียง ไม่ใช่เรื่องของคนต่อคน หรือกลุ่มต่อกลุ่มอีกต่อไป ขณะนี้เป็นเครือข่ายกันหมด ครอบคลุมถึงนักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้า นักธุรกิจ สื่อ องค์กรต่างๆ ทั้ง รัฐวิสาหกิจ หรือแม้แต่องค์กรอิสระที่รัฐธรรมนูญสร้างขึ้น

อดีต นายกฯ อานันท์ บอกว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป สุดท้ายสิ่งเหล่านี้ก็จะนำไปสู่การยึดครองพื้นที่ของ
ประเทศทั้งหมด ทุกพื้นที่ ทุกกิจกรรม ทุกส่วน   ท่านบอกว่า สมัยนี้จึงไม่ใช่เรื่องการ "โกงกิน" "ทุจริต" "ฉ้อราษฎร์บังหลวง" แต่เป็นการ ‘กินเมือง’ อะไรขวางซื้อหมด อำนาจเงินกลายเป็นอำนาจสูงสุด ... คนไม่มีค่า

คุณอานันท์ บอกด้วยว่า “นโยบายปัจจุบัน จะนำความหายนะมาสู่ประเทศ” และท่านก็มีความเศร้า ที่คนดีๆ ที่มีความรู้ ก็ตกหลุม ติดกับอยู่กับนโยบายเหล่านี้ไปด้วย

คุณอานันท์ ย้ำว่า คอร์รัปชันมีความหมายมากกว่าทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงและคอร์รัปชันไม่ใช่ความหมายเฉพาะเรื่องเงิน  แต่การโกหกประชาชน  ก็เป็นหนึ่งของการคอร์รัปชัน   ตราบใดที่เรายังเห็นคนที่มีอำนาจ  มีความรับผิดชอบออกมาหลอกประชาชนทุกวัน วันละ 3 มื้อ อย่าหวังว่าจะแก้ปัญหาคอร์รัปชันในประเทศไทยได้

อดีตนายกฯ อานันท์ บอกว่า การที่จะแก้ปัญหาดังกล่าว   ในประเทศไทยได้นั้น จะต้องทำให้คนไทยรู้สึกว่า
เงินที่โกงกินเป็นเงินของเรา เรามีส่วนเป็นเจ้าของ อีกทั้งกลุ่มที่ทำงานเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชัน ต้องบูรณาการในการกระทำของคนทุกกลุ่มร่วมกัน จึงจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผมเชื่อว่า... คนไทยจำนวนไม่น้อย  ก็เข้าใจตรงกับคุณอานันท์ แต่ยังขาดการระดมพลังคนรอบข้างต่อต้าน
คนโกงอย่างเป็นกิจจลักษณะ และบ่อยครั้งยังเห็นว่า  เป็นเรื่องที่เพียงแต่ตัวเองก็ทำอะไรมากไม่ได้ จึงกลายเป็น “เสียงเงียบงันของคนส่วนใหญ่” หรือ Silent Majority ซึ่งเป็นทัศนคติที่เป็นอันตราย เพราะว่าทำให้คนไทยเห็นการคอร์รัปชันเป็นเรื่องที่ “จำเป็นต้องทนกับมัน”  เพราะว่าไม่มีใครปราบมันให้สิ้นแผ่นดินไทยไปได้
เราอาจจะ “เสียกรุง” ครั้งใหม่...ก็เพราะคิดแบบนี้นี่แหละ /

ขอบคุณ คุณสุทธิชัย หยุ่น ที่นำข้อความข้างต้นนี้มาสื่อสารเผยแพร่ และขอบคุณ อดีตนายก ฯ อานันท์ ฯ ผู้เป็นเจ้าของความคิดอันมี คุณอเนกอนันต์ต่อชาติบ้านเมือง และเป็นการเตือนสติว่า   มหันตภัยอันเลวร้ายกำลังครอบงำประเทศของเรา ถึงเวลาที่ต้องช่วยกันคนละไม้ละมืออย่างเป็นรูปธรรมเพื่อ "รักษากรุง"
( อ่านแล้วเผยแพร่ต่อ ก็เป็นการช่วยวิธีหนึ่ง อย่าเก็บไว้คนเดียว ) 


ขอบคุณที่มาเพจ :Kitichai Taechangamlert

วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยการไม่ทิ้งถุง

เท่าที่สังเกต เห็นคนที่ซื้อของที่เซเว่นหลายคน หิ้วถุงออกมาจากร้าน 
เอาถุงออกแล้วก็ทิ้งลงไปที่ถังขยะหน้าเซเว่น ...

จริง ๆ แล้วที่เซเว่นเขาก็มีบริการรับคืนถุงนะครับ ได้รับรอยยิ้มจากพนักงานด้วย ถ้าเราไม่ใช้จริงๆก็น่าจะคืนถุงเขาไป เป็นการประหยัดทรัพยากรธรรมชาติด้วย ก็ลองฝากให้คิดดูละกันนะครับ ซื้อของเซเว่นทุกครั้ง ถ้าเราไม่ต้องการถุง และจะทิ้งก็คืนพนักงานเขาไป น่าจะดีกว่า 

นี้ถ้าเอาถุงเซเว่น 10 ใบ แลกกับแสตมป์ 1 ดวง แคมเปญรณรงค์รักโลก น่าจะได้ผลไม่น้อยเหมือนกันนะครับ ก็ฝากทางเซเว่นลองพิจารณากันดู 

- ผู้ดูแลเพจภาคกลางคืน ครับ ^^
จากเพจ :Stock2morrow

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

หน้าที่ของเด็กยุคเทคโน 2013

หน้าที่ของเด็กยุคเทคโนโลยี 2013

เด็กเอ๋ยยยยยย  เด็กดีต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน 

หนึ่งปล้นแบงแบบออนไลน์ 
สองค้ายาให้มันมันส์ 
สามตบตีกลางสามย่าน 
สี่วาจานั้นไม่เคยสุภาพอ่อนหวานนนน 
ห้ายึดมั่นอกตัญญู 
หกไม่เคยรู้รักการงาน
เจ็ดต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ ก๊อปบัตรประชาชนมัน เอาไปปล้นได้เลยยยย
แปดไม่เคยออมประหยัด 
เก้าเช็คอินเฟสบุคทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารรรร 
สิบทำตนให้เป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษ......สมบัติชาติต้องรักษา

เด็กสมัยชาติพัฒนาจะเป็นเด็กที่พาชาติไทยเจริญ...
*ซ้ำท่อนแรก* #ประพันธ์โดยเจ้ #VADJ

ขอบคุณที่มาเพจ : SinthornVista

วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

หุ้นปั่นและหุ้นพื้นฐานที่น่าจับตามองไตรมาสสุดท้าย 56

แฉหุ้นปั่น
มือใหม่บางคนใจร้อนไม่ชอบหุ้นพื้นฐานดีราคานิ่ง ไม่ทันใจวัยรุ่นพอร์ตหุ้นพื้นฐานดีติดลบแดงนิดๆหน่อยทนถือไม่ได้ จึงหันไปเล่นหุ้นปั่นเพราะราคาเปลี่ยนแปลงรวดเร็วไม่น่าเบื่อ หุ้นปั่นไม่ใช่ว่านักลงทุนไม่สามารถทำกำไรได้นะครับ มันทำกำไรได้แต่คุณต้องเข้าซื้อและออกให้ถูกจังหวะ(โคตรยากเลย) อ่านจิตวิทยาของเจ้ามือให้ออก คัทให้เป็น เมื่อแพ้คือแพ้อย่าฝืน สิ่งสำคัญที่สุดต้องอยู่บนพื้นฐานความพอเพียงและไม่โลภเอากำไรเยอะนะครับ เข้าซื้อมั่วหรือโลภฟันธงเลยครับยังงัยก็เจ๊งอย่างเดียว ผมเองยอมรับโดยตรงเลยว่าชอบเล่นหุ้นปั่น(อย่าเอาอย่างผมนะครับ มือใหม่ควรเล่นหุ้นพื้นฐานดี) เพราะด้วยงานของผมเองมีเวลาเฝ้าหน้าจอสังเกตพฤติกรรมหุ้นทุกวัน และเคยโดนมาเยอะละครับ โดนจนชิน โดยเฉพาะตอนที่เข้าตลาดหุ้นใหม่ๆ ผมรวบรวมเป็นขั้นตอนให้อ่านง่ายๆได้ดังนี้ครับ

#วิธีที่เจ้ามือเลือกหุ้น
1. หุ้นต้องมีมูลค่าทางการตลาดต่ำ ถ้ามีมูลค่าการตลาดสูงเจ้ามือหุ้นต้องไปต่อสู้กับสถาบันกองทุนและนักลงทุนต่างชาติซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปั่นราคา
2. ปัยจัยพื้นฐานไม่ดี>>>สามารถออกข่าวร้ายได้ง่าย
3. ราคาหุ้นต่ำ>>>มักไม่เกิน 10 บาท ราคาน่าปั่นที่สุดอยู่ที่ 0-5 บาท
4. มีจำนวนหุ้นหมุนเวียนน้อย >>>ควบคุมปริมาณหุ้นได้ง่าย
5. ต้องติดต่อผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ ต้องคุยกันก่อน ป้องกันเจ้ามือใหญ่กว่าขายทิ้งลงมา
#วิธีการปั่นหุ้น
1.การเก็บหุ้น
1.1เลือกนอมินี กระจายหลายพอร์ต เพื่อใช้ในการโยนหุ้นไปมา
1.2 ออกข่าวร้าย
1.3 กดราคาหุ้นต่ำมากๆเพื่อกดดันให้แมลงเม่าทนไม่ไหวคายหุ้นออกมาเพื่อเก็บหุ้น บางครั้งใช้เวลาเก็บเป็นเดือนๆ
2. ไล่ราคาหุ้น(หลังจากเก็บหุ้นครบแล้ว)
2.1 ไล่ราคาขึ้นไปรวดเดียว ในระดับหนึ่ง เป็นการกระตุกราคา ให้นักลงทุนเกิดความสงสัยว่าทำไมหุ้นขึ้น
2.2 ออกข่าวดี จ้างเขียนข่าวลงสื่อ แมลงเม่ามักจะซื้อหุ้นเพราะข่าวอย่างเดียว ไม่รู้พื้นฐานหุ้น ไม่รู้กราฟ ใดๆทั้งสิ้น ข่าวผ่านสื่อจึงเป็นเครื่องมือชั้นเยี่ยมอันดับ1 และได้ผลที่สุดของเจ้ามือหุ้น
2.3 ดันราคาเรียกความสนใจหลังจากออกข่าว ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นบ่อยชอบใช้วิธีการตั้ง Bid หนาๆ Offer บางๆ เพื่อให้แมลงเม่าคิดว่าราคาหุ้นจะไปต่อและก็ได้ผลเกือบทุกครั้ง
2.4 ถอน Bid หนาๆเมื่อกี้ออก
2.5 เทขาย(ทุบ) หรือบางคนร้ายกาจกว่านั้นคือทะยอยขาย(ริน)
โดยการรินขายมักจะใช้คำสั่งพิเศษเรียกว่า การซ่อน Order (Partial Publish) เม่าจะติดดอยที่ข้อนี้แหละครับ และส่วนใหญ่จะติดดอยภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังจากซื้อ
2.6 สำหรับหุ้นวอแรนท์ ให้ตายอย่างไรเจ้ามือหุ้นก็จะไม่ปั่นราคาหุ้นแม่ขึ้นก่อนเด็ดขาด จะไล่ราคาหุ้นลูกก่อน แล้วหลังจากนั้นจะไล่ราคาหุ้นแม่ พอราคาหุ้นแม่ขึ้นแมลงเม่าจะคิดว่าหุ้นลูก(วอแรนท์) จะต้องขึ้นอีกเลยเข้าไปซื้องานนี้เจ๊งแน่ๆ ติดกับดักเต็มๆ
จะโดนทุบอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา
3. หนีจากหุ้น เจ้ามือหุ้นจะหันไปเล่นตัวอื่น ปริมาณการซื้อขายหุ้นตัวนี้จะเงียบเป็นป่าช้า และปล่อยให้แมลงเม่าติดดอยอยู่แบบนั้นแหละครับ รอจนกว่าจะมีเจ้ามือมาปั่นอีกครั้ง นานแค่ไหนก็ไม่ทราบได้ หรืออาจจะไม่มาอีกเลยก็เป็นได้

ไม่ได้ห้ามให้เล่นนะครับ บางคนอยากร่วมสนุกลองแหย่มือเข้าไปเล่นๆก็ไม่ว่ากัน แต่ท่านต้องรู้จักทางหนี ต้องรู้ว่าตอนนี้เกมกำลังเดินอยู่ที่ข้อไหน รู้จักเอาตัวรอด รู้จักแพ้ รู้จักชนะ รู้อภัย ( 3 อันหลังเกี่ยวมั๊ย) บทสรุปสุดท้ายในตลาดหุ้นจะไม่มีใครมานั่งเห็นอกเห็นใจหรือคืนเงินให้คุณนะครับ


ขอบคุณที่มาเพจ :
Nu Putthimetha



วันนี้ลองมาดูเทรนในอนาคตกันว่าอนาคตเทรนไหนจะมาบ้างและหุ้นบ.ไหน ธุรกิจไหนเข้าเทรนบ้างครับ

7 MEGA TRAND ที่จะเป็นเทรนที่จะเติบโตในอนาคต FROM SHEETOEY'S BLOG

7 Mega trand ที่จะเป็นเทรนที่จะเติบโตในอนาคตMega Trend 1 : 3G- เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 3G- ขายสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต- mobile banking- ค้าปลีก e-Commerce- เว็บธุรกรรมออนไลน์- โซเชียลมีเดีย & เกมออนไลน์หุ้นที่เกี่ยวข้อง ADVANC, DTAC, TRUE, JMARTMega Trend
2 : TV Digital- เจ้าของสถานีโทรทัศน์- ผลิตรายการ- โฆษณาทางทีวี- ติดตั้งอุปกรณ์การออกอากาศ/รับสัญญาณทีวีดิจิตอลหุ้นที่เกี่ยวข้อง GRAMMY, RS, WORK INTUCH, SAMART ข้อพิจารณาสำหรับกลุ่มนี้- ทีวีดิจิตอลต้นทุนสูงกว่าทีวีดาวเทียม (หลักพันล้าน .vs. หลักร้อยล้าน)- ค่าโฆษณาทีวีดาวเทียมต่ำกว่าฟรีทีวี แต่ต้นทุนการผลิตรายการเท่ากัน- จำนวนช่องมาก >> เม็ดเงินโฆษณากระจายตัวไปตามแต่ละช่อง- จำนวนช่องมาก >> content สำคัญ- วัดเรตติ้งได้แม่นยำขึ้นMega Trend

3 : AEC- ท่องเที่ยว- ก่อสร้าง- บริการขนส่งสินค้า & คน- การบิน- อสังหาฯหุ้นที่เกี่ยวข้อง SCC, SCCC, ERW, CENTEL, MINT- การก่อสร้างระบบขนส่ง & เส้นทางคมนาคม- แรงงานราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้าน >> hit labor intensive industries- ย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าแรงถูก- การท่องเที่ยวบูม (หนึ่งวีซ่าสิบประเทศ)Mega Trend

4 : สังคมผู้สูงอายุ- โรงพยาบาลรายใหญ่- ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต- ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ-อาหารเสริม- ก่อสร้างบ้านสำหรับผู้สูงอายุ- สถานพยาบาล&บ้านพักคนชราหุ้นที่เกี่ยวข้อง BGH, BH, BCH- ความต้องการสถานพยาบาล&บุคลากรจะเพิ่มขึ้นมากจนขาดแคลนได้Mega Trend

5 : สังคมเมือง- ค้าปลีก- ก่อสร้าง- ขนส่ง- อสังหาหุ้นที่เกี่ยวข้อง ROBINS, CPN, BIGC, CPALL, MAKRO, HMPRO, ITD, CK, STECON, PS, LH, SPALI, LPN, SCC, SCCC- ค้าปลีกขยายไปตามหัวเมืองชั้นหนึ่ง/ชั้นสอง- การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมหัวเมืองต่างๆMega Trend

6 : Gen Y- สินค้า/บริการที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน- ขายสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต- เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 3G- เครื่องสำอาง/เสริมความงาม- สุขภาพ เช่น ลดความอ้วน อาหารเสริมหุ้นที่เกี่ยวข้อง ADVANC, DTAC, TRUE, JMART, KAMART, BEAUTY, CPF,BIGC, CPALL, MAKRO, HMPRO, GLOBAL Mega Trend

7 : ภาวะโลกร้อน- ประกันภัย ประกันชีวิต- พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม- อสังหาบนพื้นที่ที่อยู่พ้นน้ำ- ก่อสร้าง- น้ำสะอาด-อาหาร

อ้างอิงจากหนังสือ รวยหุ้นกับ 7 เมกะเทรนด์ ของดร. วีรพงษ์ ที่จริงแล้วมีหลายๆ แนวคิดที่บอกเรื่องราวของ New Mega Trends แนว โน้มใหญ่ในโลกใหม่ ไว้วันหลังจะนำเสนอมาให้อ่านครับ

ผมว่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่จะทำให้ท่านคัดกรองหุ้นให้ได้ตามกระแสของโลกที่ เปลี่ยนแปลงไป

ขอบคุณที่มาจากเพจ :
เล่นหุ้น สอนฟรี เทรนฟรี

คนที่ประสบความสำเร็จจะต้องเรียนเก่งจริง หรือไม่ ?

จากงาน This is my future 2013 - 9 สุดยอดคลังสมองประเทศไทย เตรียมคนไทยไปเวทีโลก
เสวนาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจจาก 9 มืออาชีพใน 9 ธุรกิจ โดยมีผู้บริหารระดับสูงที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจมาแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อช่วยกระตุ้นให้เยาวชนได้พัฒนาความรู้ นำหลักแนวคิดมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเอง พร้อมก้าวเข้าสู่การแข่งขันหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ได้อย่างมีศักยภาพมากขึ้น ได้กระแสตอบรับจากผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1,000 คน
คุณอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของแลนด์แอนด์เฮาส์พูดดี 11 นาที ได้เนื้อหาและแรงบันดาลใจยิ่ง

ในขณะที่คนอื่น ๆ บอกว่าต้องเร่งยกระดับการศึกษาของชาติ แต่คุณอนันต์ ตั้งคำถามว่า คนที่ประสบความสำเร็จจะต้องเรียนเก่งจริงหรือไม่ ?
ประเทศไทยเน้นเรื่องการศึกษามาก จนลืมเรื่องความสำคัญของการฝึก "นิสัย" คนไทยควรจะมีนิสัยอย่างไร จึงจะเจริญก้าวหน้าในชีวิต

คนที่มีนิสัยดีเหมือนเรามีเครื่องจักรที่ดีในตัว ไม่ว่าไปทำอะไรก็จะดี - อนันต์ อัศวโภคิน

คุณอนันต์ เจ้าของแลนด์แอนด์เฮาส์ เล่าว่า เกิดมาในครอบครัวยากจน ในบ้านมีคนมากถึง 31 คน ถือเป็นสถานที่สำคัญฝึกนิสัยให้กับเขา จนทำให้มีวันนี้
นิสัยที่ดี ฝึกไม่ยาก เริ่มจากที่บ้านใน 5 ห้อง : 
1. ห้องนอน :
ฝึกทำใจให้ว่าง ทำสมาธิ ล้างใจสะอาด นอนได้เต็มที่ และฝึกตื่นให้เป็นเวลา เก็บที่นอน เปิดหน้าต่างให้เคยชิน
"ถ้าเราเป็นคนไม่ตื่นตามเวลา ใช้ปุ่ม Snooze เพื่อที่จะตื่นมากด Snooze อีกที เราจะกลายเป็นคนที่ทำงานเสร็จนาทีสุดท้ายเสมอ" - อนันต์ อัศวโภคิน
2. ห้องน้ำ :
ฝึกการใช้น้ำอย่างประหยัด เกรงใจคนอื่น รักษาเวลา การฝึกล้างห้องน้ำให้เป็น จะช่วยฝึกให้เราไม่ดูถูกคน เป็นคนไม่เลือกงาน ไม่มีทิฐิ
"สมัยเด็ก บ้านผมไม่ได้มีฐานะ แต่มีคนถึง 31 คน น้ำก็ต้องใช้ประหยัด เข้าห้องน้ำนานไม่ได้ เพราะคนอื่นก็ต้องใช้เหมือนกัน" "ผมล้างห้องน้ำมาจนโต ทำให้ทุกงานผม ห้องน้ำต้องสะอาด เสียอย่างเวลาขึ้นเครื่อง บางทีผมต้องเสีย 15 นาทีเช็ดห้องน้ำจนสะอาด" "คนว่าผมสร้างห้างมาให้คนเข้าห้องน้ำทั้ง Terminal 21 หรือ Fashion ก็ยอมรับครับ ตอนนี้มีคนมาเข้าห้องน้ำห้างผมวันละเป็นแสน"
3. ห้องแต่งตัว :
ฝึกให้รู้จักตัดใจ เสื้อผ้าไม่ใส่ต้องทิ้ง เสียสละให้คนอื่น ใช้สิ่งของต่าง ๆ อย่างพอดีตัว "ไม่ใช่จะใช้ชีวิตแย่ ๆ แต่เท้ามีแค่สองข้าง...



ขอบคุณเพจ :Kitichai Taechangamlert

ข้อคิดจาก :สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 Ep.3

ติณณ์ : ไอไม่เก็ทเลยนะ ว่าคนสมัยนี้ทำไมคิดถึงแต่เรื่องไสยศาสตร์กันนัก รู้ไหมว่าโลกของเราไปไกลขนาดไหนล่ะ นู้น ! เทคโนโลยีไปถึงดาวอังคารแล้ว แต่คนเราก็ยังเสกตะปูเข้าท้องได้  ทำได้ไง

นายไตวาย :ก็เพราะเทคโนโลยีตอบโจทย์ของคนบางคนไม่ได้ไง

ติณณ์ : คนเราเนี้ย ยากจะได้ของคนอื่น อยากที่จะทำร้ายคนอื่น อยากที่จะเป็นใหญ่เหนือกว่าคนอื่น เขาก็เลยต้องการตัวช่วยที่เหนือธรรมชาติมากกว่า

นายไตวาย : ถูก...มันก็คือความโลภ โกรธ หลง ไง ! หรือสรุปได้ว่าก็คือ ความเห็นแก่ตัว แกลองคิดดูนะ ถ้าคนที่เพียงพอ แล้วพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ เขาไม่หมกหมุ่นเรื่องไสยศาสตร์กันหรอก

ข้อคิดจาก :สื่อรักสัมผัสหัวใจ 2 Ep.3

วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เริ่มต้นลงทุนในหุ้น สำหรับมือใหม่

มือใหม่ที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหุ้นเลยแม้แต่น้อย ไม่รู้จะเริ่มต้นยังงัย? เล่นหุ้นใช้เงินเท่าไร? ให้อ่านตั้งแต่บทความที่ 1 จนถึงบทความสุดท้ายเลยครับ ผมรวมไว้ให้แล้วววววววว   บทความทั้งหมดของเพจรวมอยู่ในลิงค์เหล่านี้ครับ (กรุณาใช้คอมในการเปิดลิงค์นะครับ ใช้มือถือผมไม่แน่ใจว่าจะเปิดลิงค์ได้มั๊ย)
ใครอ่านครบ 92 บทความกดไลค์หรือกดแชร์เพื่อเป็นวิทยาทานให้คนอื่นได้เข้ามาหาความรู้ครับ ขอบคุณครับ

บทความที่ 1
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/357032294396318

บทความที่ 2
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=357345421031672&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 3
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/357037211062493

บทความที่ 4 (สำคัญมาก อ่านทั้งอัลบัีม)
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.357581284341419.1073741829.357024634397084&type=1

บทความที่ 5 (สำคัญมาก อ่านทั้งอัลบัีม)
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.358167597616121.1073741830.357024634397084&type=1

บทความที่ 6 (สำคัญมาก อ่านทั้งอัลบัีม)
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.360653190700895.1073741831.357024634397084&type=3

บทความที่ 7
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=362004797232401&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 8
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=362012247231656&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 9
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=362014607231420&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater


บทความที่ 10
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=362015637231317&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater


บทความที่ 11
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=362052413894306&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 12
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/361974240568790

บทความที่ 13
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=362460433853504&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 14
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=362704253829122&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 15
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=363482413751306&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 16
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=363494027083478&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 17
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=363633140402900&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 18
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=363927583706789&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 19
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=363929413706606&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 20
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=363946533704894&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 20
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=364010260365188&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 21
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=364287293670818&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 22 (สำคัญมาก)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=364500100316204&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 23
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=364798380286376&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 24
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=364876406945240&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 25
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=365412156891665&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 26
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=365407623558785&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 27
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=365942820171932&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 28
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/365940023505545

บทความที่ 29
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=366861763413371&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 30
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=367162990049915&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 31
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=367980169968197&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater


บทความที่ 32
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=368278279938386&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 33
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=368607723238775&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 34
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/369184943181053

บทความที่ 35
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=369961553103392&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 36
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=369961553103392&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 37
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/370790513020496

บทความที่ 38
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=372438402855707&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 39
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=373618769404337&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 40
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=379279332171614&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 41 (สำคัญมาก อ่านทั้งอัลบั้ม)
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.376204882479059.1073741836.357024634397084&type=3

บทความที่ 42
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=379521188814095&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 43 (สำคัญมาก อ่านทั้งอัลบั้ม)
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.371472666285614.1073741834.357024634397084&type=3

บทความที่ 44 (สำคัญมาก อ่านทั้งอัลบั้ม)
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.373275542771993.1073741835.357024634397084&type=3

บทความที่ 45 (สำคัญมาก อ่านทั้งอัลบั้ม)
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.370285026404378.1073741833.357024634397084&type=3

บทความที่ 46
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.393774017388812.1073741841.357024634397084&type=3

บทความที่ 47
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/381512728614941

บทความที่ 48
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=382528781846669&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 49
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/382844698481744

บทความที่ 50
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/383147218451492

บทความที่ 51
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=384576504975230&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 52 (สำคัญมาก)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=385202698245944&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 53 (สำคัญมาก อ่านทั้งอัลบั้ม)
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.378976155535265.1073741837.357024634397084&type=3

บทความที่ 53 (สำคัญมาก อ่านทั้งอัลบั้ม)
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.390236817742532.1073741839.357024634397084&type=3

บทความที่ 54 (สำคัญมาก อ่านทั้งอัลบั้ม)
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.392982230801324.1073741840.357024634397084&type=3

บทความที่ 55 (สำคัญมาก อ่านทั้งอัลบั้ม)
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.386174804815400.1073741838.357024634397084&type=3

บทความที่ 56
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=386514148114799&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 57
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=387185628047651&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 58
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=387084928057721&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 59
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/388072517958962

บทความที่ 60
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=388411047925109&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 61
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=389360201163527&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 62
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=389100927856121&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 63
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=390012837764930&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 64
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=391411997625014&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 65
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=392052400894307&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater


บทความที่ 66
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/392774837488730

บทความที่ 67
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=393349090764638&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 68
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/395305103902370

บทความที่ 69
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=396288283804052&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 70
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=396342550465292&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 71
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=397551357011078&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 72
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=398234800276067&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 73 (สำคัญมาก)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=400460873386793&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 74
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/401836763249204

บทความที่ 75
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/400902970009250

บทความที่ 76
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=402691886497025&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 77
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/402720289827518

บทความที่ 78
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/403098233123057

บทความที่ 79
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=403870216379192&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 80
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=404266223006258&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 81
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=405531349546412&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 82
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=405895109510036&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 83
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=410865722346308&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 84(สำคัญมาก อ่านทั้งอัลบั้ม)
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.413107945455419.1073741843.357024634397084&type=1

บทความที่ 85 (สำคัญมาก อ่านทั้งอัลบั้ม)
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.408848355881378.1073741842.357024634397084&type=3

บทความที่ 86
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=413881805378033&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 87
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=415191158580431&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 88
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=416365471796333&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater


บทความที่ 89
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=417073658392181&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 90 (สำคัญมาก)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=417406935025520&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater

บทความที่ 91 (สำคัญมาก)
https://www.facebook.com/rakhoon/posts/417791658320381

บทความที่ 92
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=420607401372140&set=a.357030844396463.1073741828.357024634397084&type=1&theater


ขอบคุณจากเพจ : เล่นหุ้นไม่เป็น เราใจดีสอนฟรี