โดย สุทธิชัย หยุ่น
"ผมอ่านแล้ว ก็ต้องส่งสารต่อให้ท่านผู้อ่านได้ช่วยกัน คิดช่วยกันอ่าน เพราะว่าลำพังเราเอง เพียงแค่แสดงความกังวล ห่วงใยในบ้านเมืองเฉยๆ ไม่น่าจะพอ แต่จะต้องรวมพลังในรูปแบบต่างๆ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา
บ้านเมืองกันอย่างแข็งขันอีกด้วย"
คุณอานันท์ บอกว่า “ปีนี้ผมมีอายุครบ 80 ปี และเป็นปีแรกที่ต้องขอสารภาพด้วยความจริงใจ บริสุทธิ์ใจ และไม่มีอคติ ว่า ปีนี้ผมมีความห่วงใยเรื่องคอร์รัปชันในเมืองไทยมากที่สุด ตั้งแต่เกิดมา”
คุณอานันท์ บอกว่า ในอดีตคอร์รัปชันเป็นเรื่องการใ
อดีต นายกฯ อานันท์ บอกว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป สุดท้ายสิ่งเหล่านี้ก็จะนำไปสู่
ประเทศทั้งหมด ทุกพื้นที่ ทุกกิจกรรม ทุกส่วน ท่านบอกว่า สมัยนี้จึงไม่ใช่เรื่องการ "โกงกิน" "ทุจริต" "ฉ้อราษฎร์บังหลวง" แต่เป็นการ ‘กินเมือง’ อะไรขวางซื้อหมด อำนาจเงินกลายเป็นอำนาจสูงสุด ... คนไม่มีค่า
คุณอานันท์ บอกด้วยว่า “นโยบายปัจจุบัน จะนำความหายนะมาสู่ประเทศ” และท่านก็มีความเศร้า ที่คนดีๆ ที่มีความรู้ ก็ตกหลุม ติดกับอยู่กับนโยบายเหล่านี้ไปด้วย
คุณอานันท์ ย้ำว่า คอร์รัปชันมีความหมายมากกว่าทุจ
อดีตนายกฯ อานันท์ บอกว่า การที่จะแก้ปัญหาดังกล่าว ในประเทศไทยได้นั้น จะต้องทำให้คนไทยรู้สึกว่า
เงินที่โกงกินเป็นเงินของเรา เรามีส่วนเป็นเจ้าของ อีกทั้งกลุ่มที่ทำงานเรื่องการต
ผมเชื่อว่า... คนไทยจำนวนไม่น้อย ก็เข้าใจตรงกับคุณอานันท์ แต่ยังขาดการระดมพลังคนรอบข้างต่อต้าน
คนโกงอย่างเป็นกิจจลักษณะ และบ่อยครั้งยังเห็นว่า เป็นเรื่องที่เพียงแต่ตัวเองก็ทำอะไรมากไม่ได้ จึงกลายเป็น “เสียงเงียบงันของคนส่วนใหญ่” หรือ Silent Majority ซึ่งเป็นทัศนคติที่เป็นอันตราย เพราะว่าทำให้คนไทยเห็นการคอร์รัปชันเป็นเรื่องที่ “จำเป็นต้องทนกับมัน” เพราะว่าไม่มีใครปราบมันให้สิ้น
เราอาจจะ “เสียกรุง” ครั้งใหม่...ก็เพราะคิดแบบนี้นี
ขอบคุณ คุณสุทธิชัย หยุ่น ที่นำข้อความข้างต้นนี้มาสื่อสา
( อ่านแล้วเผยแพร่ต่อ ก็เป็นการช่วยวิธีหนึ่ง อย่าเก็บไว้คนเดียว )
ขอบคุณที่มาเพจ :Kitichai Taechangamlert
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น