นานิเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นด้วยตัวเองได้ประมาณ 3 ปี กว่าแล้ว ถึงจะยังไม่ได้เก่งมากเท่าพี่ๆนักลงทุนหลายคน แต่นานิก็อยากจะแบ่งปันความรู้ทางด้านการลงทุนในแนวแบบ 'เด็ก ๆ' ของนานิ เผื่อว่าเพื่อนๆจะนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง (สำหรับเพื่อนๆที่ไม่เคยมีประสบการณ์การลงทุนในหุ้นมาก่อน ต้องอ่านบทต่อไปนี้ให้ดี ชื่อบทว่า "ระวังได้กำไรนะ !" )
บทที่ 1 :ระวังได้กำไรนะ
แต่ปัญหาก็คือ ตลาดหุ้น มันเป็นที่ ๆ มนุษย์เราสามารถทำกำไรได้มากมาย ชนิดที่ว่าเป็นกอบเป็นกำเลยก็ว่าได้ ดังนั้น หลายคนที่กลัวว่าตัวเองจะได้กำไรก็อาจจะกังวลว่า เอ๊ะ ! เราควรจะทำไงดีน้า ถึงจะหลบกำไรได้ ?
ในบทนี้ จึงได้นำเคล็ดลับและเทคนิคการเล่นหุ้นหลบกำไรแบบง่ายๆมาฝากทุกคน รับรอง 99 % ว่าจะทำให้การเล่นหุ้นของเพื่อนๆไม่ได้กำไรแน่นอน หายห่วง !
1.อย่าอ่านหนังสือเรื่องหุ้นเด็ดขาด !
การอ่านหนังสือที่สอนเราเรื่องหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือที่เขียนโดยนักลงทุนที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วนั้น มันจะทำให้เรามีความรู้เพิ่มขึ้น และเพิ่มความน่าจะเป็นว่าเราจะได้กำไรมากขึ้นถึง 50 % เพราะฉะนั้น อย่าเสี่ยงอ่านเลยดีกว่า ถ้าไม่อยากได้กำไร สิ่งเดียวที่เราควรจะเรียนรู้คือ การเปิดพอร์ตและวิธีสั่งซื้อ - ขายหุ้น ก็พอแล้ว
2.เวลาตัดสินใจซื้อหุ้น อย่าไปดูงบการเงิน งบการงง นะ !
ยิ่งดูยิ่งงง ซื้อๆตามที่คนเค้าบอกมานั่นแหละดีแล้ว ไม่ต้องไปวิเคราะห์เองหรอก ถ้าเผลอดูไปแล้ว ก็ให้คอยระวังพวกบริษัทที่เอาแต่ทำกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี เราควรจะหาซื้อบริษัทที่คนส่วนใหญ่เค้ากำลังไล่ซื้อกันอยู่ตอนนี้ คือไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่น เอาแค่มีคนแห่ซื้อกันอยู่ก็พอ แล้วถ้ายิ่งมันเขียนคำว่า N/A ไว้ตรงกำไรต่อหุ้นนะ ให้รีบซื้อเลย เดี๋ยวไม่ทันขาดทุน !
3.ให้ศึกษาราคาย้อนหลังให้ดี !
ราคาย้อนหลังนี่สำคัญมาก ต้องดูให้ดีจริง ๆ ไม่งั้นเราอาจจะเผลอซื้อหุ้นดี ๆ ตอนที่มันราคาถูกไป ! คือเราต้องซื้อตอนที่มันแพง ๆ ! ควรจะเลือกหุ้นที่ราคามันพุ่งขึ้นมาอย่างน้อย 50 % ภายในเวลาไม่ถึง 6 เดือน คือยิ่งราคาพุ่งเร็ว ยิ่งต้องรีบซื้อให้ทันเลยนะ
4.อย่าเข้าสัมมนาหาความรู้เพิ่ม แล้วก็อย่าไปเจอเพื่อนนักลงทุนใหม่ ๆ
หลายคนอาจจะเบื่อพวกนักสัมมนาเรื่องหุ้น ชอบสอนแต่สิ่งที่จะทำให้เราได้กำไรมากขึ้นอยู่นั่นแหละ ดังนั้น เราก็ไม่ควรจะไปฟังเรื่องพวกนั้นเด็ดขาด อีกอย่างเวลาไปสัมมนา ก็ต้องเจอกับพวกนักลงทุนที่ไปแรง อยากจะลงทุนให้ได้กำไรเพิ่มขึ้นทั้งนั้น ดังนั้น เราควรหลบให้ดี คุยกับคนพวกนี้เยอะ ๆ เราจะได้ความรู้ใหม่ ๆ ได้ไอเดียและแนวคิดในการลงทุนใหม่ ๆ จนอาจจะทำให้เราหลงเรียนรู้และหัดตามจนได้กำไรจนได้ ! เพราะฉะนั้นต้องระวังให้ดี
5.ทั้งพอร์ตควรมีหุ้นแค่ตัวเดียว หรืออย่างมากก็สองตัว
อันนี้หลายคนอาจจะไม่รู้ อันตรายมาก คือถ้าสมมติว่า ในพอร์ตเราซื้อหุ้นไว้ 5 ตัว ถ้าเราคาดการณ์ผิด แล้วมี 3 ตัว ที่มันดันขึ้นซะงั้น มีลงแค่ 2 ตัว หักลบแล้วมันกลับกลายเป็นว่าเราได้กำไรขึ้นมา มันก็จะทำให้ปวดหัวกันไปอีก ! เพราะฉะนั้น เราควรจะเอาไข่ใส่ไว้ตะกร้าเดียวกันให้หมดไปเลย ตอนมันแตกจะได้แตกให้หมดทีเดียวไปเลย ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาตอกทีละใบ
กำไร เป็นสิ่งที่สวยงามที่เราทุกคนอยากจะได้มา แต่บางคนอาจจะเห็นภาพไม่ชัดว่าตัวเองหรือคนที่เรารู้จักแล้วเค้าเล่นหุ้นขาดทุน เค้าทำอะไรผิดถึงเล่นหุ้นทีไร ก็ได้ใช้ทุกศัพท์หุ้นเลย ตั้งแต่ตกรถ ขายหมู ติดดอย
นานิก็เลยใช้ "เคล็ดลับ 5 อย่าง : ทำอย่างไรให้ไมได้กำไร " มาทำให้ทุกคนเห็นภาพชัดขึ้น ถ้าใครเจอข้อไหนตรงกับตัวเองจะได้ร้องอ๋อ และเข้าใจว่าตัวเองทำพลาดอะไรไป
ทีนี้ ทำยังไงถึงจะได้กำไรล่ะ ? อันนี้คงต้องคุยกันอีกยาวมาก ในบทถัดไป
หลาย ๆ คนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นนั้น
มีพฤติกรรมในการซื้อ - ขาย ราวกับว่า
พวกเค้ากลัวว่าจะได้กำไรอย่างนั้นแหละ
บทที่ 2 : ฟิตตัวเองก่อนลงสนาม
บทนี้ อยากจะให้ทุกคนกลับมาคิดว่า แล้วเราจะทำยังไงล่ะ ถึงจะทำให้ได้กำไรมาประดับพอร์ต เริ่มต้นง่ายๆก็คือการเตรียมตัวเองให้พร้อมนั้นเอง
อย่างแรกที่ต้องทำเลยก็คือ " หาความรู้ " เวลาใครถามว่า "ถ้าอยากจะเล่นหุ้น ควรจะเริ่มยังไงดี" คำตอบ : ให้อ่านหนังสือ เพราะการเรียนรู้เรื่องการลงทุนก็เหมือนเป็นวิชาความรู้แขนงหนึ่ง
การจะเรียนรู้วิชาใหม่ ๆ เราก็ควรจะอ่านหนังสือของปรมาจารย์ที่เคยประสบความสำเร็จในการลงทุนมาแล้ว เพราะมันจะทำให้เราได้ไอเดียที่จำเป็นสำหรับการเอาตัวรอดในสนามจริง
หลังจากอ่านหนังสือเพิ่มความรู้ในตำราแล้ว เราก็จะต้องเพิ่มความรู้รอบตัวทางเศรษฐกิจด้วย นั่นคือต้องหัดอ่่านหนังสือพิมพ์หรือถ้าขี้เกียจอ่าน ก็ให้ดูข่าวในทีวีเอา เราจะได้รู้ว่าชาวโลกทั้งหลายเค้าทำอะไรกันอยู่
ดังนั้น เวลามีเรื่องราวใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้านั้น เศรษฐกิจไทยและบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่ ก็อาจจะได้รับผลกระทบได้วย ยิ่งถ้าเราถือหุ้นบริษัทที่ส่งออกสินค้าหรือมีการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อมาผลิตสินค้านั้น ก็ยิ่งกระทบใหญ่
นอกจากนี้ ว่างๆก็ควรจะเช็คดูเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอยู่เสมอ ถือเป็นการอัพเดทตัวเอง
อีกอย่างที่สำคัญก็คือ "การซ้อมฝีมือ" ขนาดนักกี่ฬา นักดนตรี ฯลฯ เรายังหนีไม่พ้นเรื่องการซ้อมหนักก่อนที่จะลงแข่งจริง เรื่องหุ้นก็ต้องซ้อมหนักเช่นกัน
การลงทุนแรก ๆ แล้วขาดทุน เราไม่ควรเรียกว่าขาดทุน
ควรถือซะว่าเป็นการ "จ่ายค่าเทอม" สำหรับการเรียนรู้เรื่องหุ้นของเรา
เพราะไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยขาดทุนเลย
การลงทุนไม่ว่าจะในหุ้นหรือในอะไรก็ตาม มันไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่คิด มันไม่ใช่แค่เรื่องการคลิกซื้อ - ขาย แต่มันต้องใช้ทั้งความรู้และจิตวิทยาประกอบกับความใจเย็นมาช่วยกัน
ดังนั้น ทุกคนอย่าเพิ่งใจร้อนเอาเงินออมไปเปิดพอร์ตก่อน ลองเอาเงินปลอมมาจ่ายค่าเทอมให้ตัวเองก่อนดีกว่า
โปรดติดตามตอนต่อไป >>>>ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น