วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

ข้อคิดหนังสือ :สร้างเงินล้านก่อนเรียนจบ ตอน 3

THEME ๔ : (แถม)  การลงทุนในหุ้นของนานิ

    นานิเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นด้วยตัวเองได้ประมาณ   3 ปี  กว่าแล้ว   ถึงจะยังไม่ได้เก่งมากเท่าพี่ๆนักลงทุนหลายคน   แต่นานิก็อยากจะแบ่งปันความรู้ทางด้านการลงทุนในแนวแบบ  'เด็ก ๆ' ของนานิ   เผื่อว่าเพื่อนๆจะนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง (สำหรับเพื่อนๆที่ไม่เคยมีประสบการณ์การลงทุนในหุ้นมาก่อน ต้องอ่านบทต่อไปนี้ให้ดี ชื่อบทว่า  "ระวังได้กำไรนะ !)
      
     บทที่ 1 :ระวังได้กำไรนะ 
 แต่ปัญหาก็คือ  ตลาดหุ้น  มันเป็นที่ ๆ มนุษย์เราสามารถทำกำไรได้มากมาย  ชนิดที่ว่าเป็นกอบเป็นกำเลยก็ว่าได้  ดังนั้น  หลายคนที่กลัวว่าตัวเองจะได้กำไรก็อาจจะกังวลว่า เอ๊ะ ! เราควรจะทำไงดีน้า ถึงจะหลบกำไรได้ ?
      ในบทนี้  จึงได้นำเคล็ดลับและเทคนิคการเล่นหุ้นหลบกำไรแบบง่ายๆมาฝากทุกคน  รับรอง 99 % ว่าจะทำให้การเล่นหุ้นของเพื่อนๆไม่ได้กำไรแน่นอน หายห่วง !

   1.อย่าอ่านหนังสือเรื่องหุ้นเด็ดขาด ! 
     การอ่านหนังสือที่สอนเราเรื่องหุ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือที่เขียนโดยนักลงทุนที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วนั้น  มันจะทำให้เรามีความรู้เพิ่มขึ้น  และเพิ่มความน่าจะเป็นว่าเราจะได้กำไรมากขึ้นถึง 50 % เพราะฉะนั้น อย่าเสี่ยงอ่านเลยดีกว่า  ถ้าไม่อยากได้กำไร  สิ่งเดียวที่เราควรจะเรียนรู้คือ การเปิดพอร์ตและวิธีสั่งซื้อ - ขายหุ้น ก็พอแล้ว 
   2.เวลาตัดสินใจซื้อหุ้น  อย่าไปดูงบการเงิน งบการงง นะ !
      ยิ่งดูยิ่งงง  ซื้อๆตามที่คนเค้าบอกมานั่นแหละดีแล้ว  ไม่ต้องไปวิเคราะห์เองหรอก ถ้าเผลอดูไปแล้ว ก็ให้คอยระวังพวกบริษัทที่เอาแต่ทำกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี  เราควรจะหาซื้อบริษัทที่คนส่วนใหญ่เค้ากำลังไล่ซื้อกันอยู่ตอนนี้  คือไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่น  เอาแค่มีคนแห่ซื้อกันอยู่ก็พอ แล้วถ้ายิ่งมันเขียนคำว่า N/A  ไว้ตรงกำไรต่อหุ้นนะ  ให้รีบซื้อเลย เดี๋ยวไม่ทันขาดทุน !
    3.ให้ศึกษาราคาย้อนหลังให้ดี !
        ราคาย้อนหลังนี่สำคัญมาก  ต้องดูให้ดีจริง ๆ ไม่งั้นเราอาจจะเผลอซื้อหุ้นดี ๆ ตอนที่มันราคาถูกไป ! คือเราต้องซื้อตอนที่มันแพง ๆ ! ควรจะเลือกหุ้นที่ราคามันพุ่งขึ้นมาอย่างน้อย 50 % ภายในเวลาไม่ถึง 6 เดือน คือยิ่งราคาพุ่งเร็ว ยิ่งต้องรีบซื้อให้ทันเลยนะ 
   4.อย่าเข้าสัมมนาหาความรู้เพิ่ม แล้วก็อย่าไปเจอเพื่อนนักลงทุนใหม่ ๆ
       หลายคนอาจจะเบื่อพวกนักสัมมนาเรื่องหุ้น ชอบสอนแต่สิ่งที่จะทำให้เราได้กำไรมากขึ้นอยู่นั่นแหละ  ดังนั้น เราก็ไม่ควรจะไปฟังเรื่องพวกนั้นเด็ดขาด  อีกอย่างเวลาไปสัมมนา  ก็ต้องเจอกับพวกนักลงทุนที่ไปแรง อยากจะลงทุนให้ได้กำไรเพิ่มขึ้นทั้งนั้น  ดังนั้น  เราควรหลบให้ดี  คุยกับคนพวกนี้เยอะ ๆ เราจะได้ความรู้ใหม่ ๆ ได้ไอเดียและแนวคิดในการลงทุนใหม่ ๆ จนอาจจะทำให้เราหลงเรียนรู้และหัดตามจนได้กำไรจนได้ ! เพราะฉะนั้นต้องระวังให้ดี  
   5.ทั้งพอร์ตควรมีหุ้นแค่ตัวเดียว หรืออย่างมากก็สองตัว 
       อันนี้หลายคนอาจจะไม่รู้  อันตรายมาก  คือถ้าสมมติว่า  ในพอร์ตเราซื้อหุ้นไว้  5 ตัว ถ้าเราคาดการณ์ผิด แล้วมี 3 ตัว ที่มันดันขึ้นซะงั้น  มีลงแค่ 2 ตัว หักลบแล้วมันกลับกลายเป็นว่าเราได้กำไรขึ้นมา  มันก็จะทำให้ปวดหัวกันไปอีก ! เพราะฉะนั้น เราควรจะเอาไข่ใส่ไว้ตะกร้าเดียวกันให้หมดไปเลย  ตอนมันแตกจะได้แตกให้หมดทีเดียวไปเลย ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาตอกทีละใบ 

    กำไร  เป็นสิ่งที่สวยงามที่เราทุกคนอยากจะได้มา แต่บางคนอาจจะเห็นภาพไม่ชัดว่าตัวเองหรือคนที่เรารู้จักแล้วเค้าเล่นหุ้นขาดทุน เค้าทำอะไรผิดถึงเล่นหุ้นทีไร ก็ได้ใช้ทุกศัพท์หุ้นเลย ตั้งแต่ตกรถ  ขายหมู  ติดดอย 
    นานิก็เลยใช้ "เคล็ดลับ 5 อย่าง  : ทำอย่างไรให้ไมได้กำไร " มาทำให้ทุกคนเห็นภาพชัดขึ้น  ถ้าใครเจอข้อไหนตรงกับตัวเองจะได้ร้องอ๋อ  และเข้าใจว่าตัวเองทำพลาดอะไรไป 
      ทีนี้  ทำยังไงถึงจะได้กำไรล่ะ ? อันนี้คงต้องคุยกันอีกยาวมาก ในบทถัดไป 

หลาย ๆ คนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นนั้น
มีพฤติกรรมในการซื้อ - ขาย ราวกับว่า
พวกเค้ากลัวว่าจะได้กำไรอย่างนั้นแหละ


    บทที่ 2 : ฟิตตัวเองก่อนลงสนาม 

     บทนี้  อยากจะให้ทุกคนกลับมาคิดว่า  แล้วเราจะทำยังไงล่ะ  ถึงจะทำให้ได้กำไรมาประดับพอร์ต เริ่มต้นง่ายๆก็คือการเตรียมตัวเองให้พร้อมนั้นเอง 
     อย่างแรกที่ต้องทำเลยก็คือ " หาความรู้ " เวลาใครถามว่า  "ถ้าอยากจะเล่นหุ้น ควรจะเริ่มยังไงดี" คำตอบ : ให้อ่านหนังสือ  เพราะการเรียนรู้เรื่องการลงทุนก็เหมือนเป็นวิชาความรู้แขนงหนึ่ง  
     การจะเรียนรู้วิชาใหม่ ๆ เราก็ควรจะอ่านหนังสือของปรมาจารย์ที่เคยประสบความสำเร็จในการลงทุนมาแล้ว เพราะมันจะทำให้เราได้ไอเดียที่จำเป็นสำหรับการเอาตัวรอดในสนามจริง 
    หลังจากอ่านหนังสือเพิ่มความรู้ในตำราแล้ว  เราก็จะต้องเพิ่มความรู้รอบตัวทางเศรษฐกิจด้วย  นั่นคือต้องหัดอ่่านหนังสือพิมพ์หรือถ้าขี้เกียจอ่าน  ก็ให้ดูข่าวในทีวีเอา  เราจะได้รู้ว่าชาวโลกทั้งหลายเค้าทำอะไรกันอยู่
   ดังนั้น  เวลามีเรื่องราวใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้านั้น  เศรษฐกิจไทยและบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่  ก็อาจจะได้รับผลกระทบได้วย  ยิ่งถ้าเราถือหุ้นบริษัทที่ส่งออกสินค้าหรือมีการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อมาผลิตสินค้านั้น  ก็ยิ่งกระทบใหญ่
     นอกจากนี้   ว่างๆก็ควรจะเช็คดูเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอยู่เสมอ  ถือเป็นการอัพเดทตัวเอง
     อีกอย่างที่สำคัญก็คือ "การซ้อมฝีมือ"  ขนาดนักกี่ฬา นักดนตรี ฯลฯ เรายังหนีไม่พ้นเรื่องการซ้อมหนักก่อนที่จะลงแข่งจริง  เรื่องหุ้นก็ต้องซ้อมหนักเช่นกัน
     
การลงทุนแรก ๆ แล้วขาดทุน  เราไม่ควรเรียกว่าขาดทุน  
ควรถือซะว่าเป็นการ  "จ่ายค่าเทอม" สำหรับการเรียนรู้เรื่องหุ้นของเรา 
 เพราะไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยขาดทุนเลย
     
     การลงทุนไม่ว่าจะในหุ้นหรือในอะไรก็ตาม  มันไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่คิด  มันไม่ใช่แค่เรื่องการคลิกซื้อ - ขาย แต่มันต้องใช้ทั้งความรู้และจิตวิทยาประกอบกับความใจเย็นมาช่วยกัน
      ดังนั้น  ทุกคนอย่าเพิ่งใจร้อนเอาเงินออมไปเปิดพอร์ตก่อน  ลองเอาเงินปลอมมาจ่ายค่าเทอมให้ตัวเองก่อนดีกว่า 

 โปรดติดตามตอนต่อไป >>>>ครับ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น